“โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์” สหกรณ์ผู้ผลิตและใช้ปุ๋ยอินทรีย์อำเภอกระแสสินธุ์ จำกัด อีกหนึ่งบทพิสูจน์ความสำเร็จ หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้สหกรณ์ขนาดเล็กได้มีอาชีพและสร้างรายได้ ผ่าน “โครงการก่อตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์”
พื้นที่ทุ่งนากว่า 60 ไร่ ของสมาชิกสหกรณ์ผู้ผลิตและใช้ปุ๋ยอินทรีย์อำเภอกระแสสินธุ์ จำกัด ในชุมชนบ้านเขาใน ต.เชิงแส เดิมเป็นพื้นที่นาร้างที่ถูกทิ้งมานานเนื่องด้วยพื้นที่แห่งนี้ มีน้ำท่วมขังตลอดทั้งปีไม่สามารถทำนาได้ ทำให้คนในชุมชนบางส่วนไม่มีอาชีพที่จะสร้างรายได้ให้กับตัวเองและครอบครัว เมื่อรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้สหกรณ์ขนาดเล็กได้มีอาชีพและสร้างรายได้ จึงนำเสนอ “โครงการก่อตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์” บนพื้นที่ 60 ไร่ ที่ใช้ในการติดตั้งแผ่นโซล่าเซลล์ ที่มีกำลังพลังผลิตไฟฟ้า 5 เมกะวัตต์ เพื่อผลิตไฟฟ้าและจำหน่ายให้กับโรงไฟฟ้าระโนดถือได้ว่าเป็นโรงงานผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดสงขลา
นางสาวนทีธรรม ทองเนื้อแข็ง ผู้ใหญ่บ้านบ้านเขาใน ม.1ต.เชิงแส อ.กระแสสินธุ์ จว.สงขลา ในฐานะเลขานุการเลขาสหกรณ์ผู้ผลิตและใช้ปุ๋ยอินทรีย์อำเภอกระแสสินธุ์ จำกัด กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้สหกรณ์ขนาดเล็กได้มีอาชีพและสร้างรายได้ จึงนำเสนอโครงการเมื่อปี 2559 และก่อตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนพื้นที่ 60 ไร่ในปี 2560 โดยติดตั้งแผ่นโซล่าเซลล์ ที่มีกำลังพลังผลิตไฟฟ้า 5 เมกะวัตต์ เพื่อผลิตไฟฟ้าและจำหน่ายให้กับโรงไฟฟ้าระโนด โดยมีการทำข้อตกลงในการเช่าพื้นที่ของสมาชิกสหกรณ์ เมื่อจำหน่ายไฟฟ้าให้กับโรงไฟฟ้าระโนด รายได้ที่ได้หลังจากจำหน่ายจะเข้าสหกรณ์ 10 % ไม่หักค่าจ่าย คือประมาณปีละ 4.2 ล้านบาท รวมทั้งโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ยังช่วยในเรื่องของการจ้างคนในชุมชนเพื่อที่จะสามารถสร้างอาชีพให้ได้มีรายได้จากโครงการนี้ ถือได้ว่าเกิดเป็นประโยชน์สูงสุดให้กับคนในชุมชน
ซึ่งก่อนเริ่มโครงการชาวบ้านในพื้นที่อาจจะยังไม่มีความเข้าใจ ทำให้ต้องมีการทำประชาคมสอบถามและชี้แจงจนเกิดความเข้าใจ ทำให้ชาวบ้านใช้พลังงานที่สะอาดไม่เกิดผลเสียใด ๆ มีแต่ให้ประโยชน์ ทั้งนี้หากสหกรณ์หรือชุมชนใดที่ต้องการมีโครงการในลักษณะเช่นนี้ต้องเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง ขับเคลื่อนได้อย่างเหนียวแน่น เนื่องจากเราตั้งสหกรณ์ของเราก่อตั้งมา 11 ปี ทำทุกอย่างให้ถูกต้องเพื่อขอเสนองบประมาณดำเนินการ ประกอบกับประชาชนมีการตื่นตัวในโครงการทำให้สหกรณ์ได้เรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ
“เดิมบริเวณก่อสร้างโรงไฟฟ้าน้ำท่วม เจ้าของพื้นที่มีการทำนาบ้างบางส่วน แต่มีปัญหาแมลงศัตรูพืช ทำให้การทำนาไม่ได้ผล จึงปล่อยให้รกร้างว่างเปล่า สำหรับพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้า 60 ไร่เป็นของสมาชิกสหกณ์ฯ 8 ราย สัญญาเช่า 27 ปี ทั้งนี้หลังจากได้ก่อตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ส่งผลให้คนในชุมชนสามารถสร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับครอบครัวเป็นอย่างดี”
นอกจากนี้ รายได้ที่สหกรณ์ฯ ได้รับได้นำไปพัฒนาการส่งเสริมอาชีพให้กับสมาชิกสหกรณ์และคนในชุมชน ถือเป็นสวัสดิการและเป็นทุนการศึกษาค่าเล่าเรียนให้กับเด็กๆ ผู้ยากไร้ ตลอดจนให้สินเชื่อเพื่อการผลิตดอกเบี้ย 0 เปอร์เซ็นต์ ทำประกันสังคมตามมาตรา 40 รวมถึง สนับสนุนเงินเข้ากองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ทำให้สมาชิกมีและคนในชุมชนความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตามผลดีและการได้รับประโยชน์ดังกล่าวของโครงการดังกล่าว เรายังมีแนวความคิดการทำใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อส่งกิจกรรมทางการเกษตรในพื้นที่ เช่นการขุดเจาะน้ำบาดาล เครื่องปั๊มน้ำ การติดตั้งตู้อบกล้วยน้ำหว้า การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากปลา โครงการนี้ถือเป็นโครงการแห่งแรกของภาคใต้ตอนล่าง แม้เราจะเป็นชุมชนเล็กมีเพียง 123 ครัวเรือน แต่ผลสำเร็จถือเป็นรูปธรรมที่เห็นผลได้อย่างชัดเจน จากที่มีการเขียนยุทธศาสตร์ชาติในการพัฒนาท้องถิ่นต่าง ๆ เราไม่สามารถเข้าใจหรือมองได้ โครงการนี้ยังต่อยอดเป็นสถานที่ศึกษาดูงานให้กับนักเรียน นักศึกษาต่างๆ
ด้านนายธนาธิป พฤกษศรี ผู้จัดการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กระแสสินธุ์ 5MW บริษัทพาราโบลิค กล่าวว่า บริษัทฯ จะทำหน้าที่ในการดูแลระบบโรงงานผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และจดรายงานประจำวัน โดยจะผลิตไฟฟ้า 5 เมกะวัตต์ เพื่อผลิตไฟฟ้าและจำหน่ายให้กับโรงไฟฟ้าระโนด 7 ล้านหน่วยต่อปีแต่จากสถิติที่ผ่านมานับตั้งแต่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าสามารถผลิตได้เกินเป้าหมายไปกว่าหมื่นหน่วย สำหรับการทำงานของไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์จะใช้แผงโซล่าเซลล์ 15,680 แผง แต่ละแผงจะมีอายุการใช้งานยาวนาน 25 ปี หากไม่มีการชำรุดที่สาเหตุอาจเกิดมาจากการล่าสัตว์ที่ใช้ปืนยิงและอาจเกิดผิดพลาดตกใส่แผงดังกล่าว ส่วนการดูแลรักษาจะทำความสะอาดทุก 4 เดือน
ขณะที่นางศิริพร หอมหวาน สมาชิกสหกรณ์ผู้ผลิตและใช้ปุ๋ยอินทรีย์อำเภอกระแสสินธุ์ จำกัด กล่าวว่า ก่อนเริ่มโครงการชาวบ้านยังไม่มีความเข้าใจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โดยเฉพาะตนมีที่อยู่อาศัยตลอดจน ทำการเกษตรเช่น ฟาร์มไก่ นาข้าว และสวนปาล์มใกล้กับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ มีระยะห่างเพียง 50 เมตร ได้เกิดข้อกังกลว่า ความร้อนจะส่งผลกระทบ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงตลอดจนเริ่มก่อสร้างทำให้เข้าใจมากขึ้นว่าไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด แต่ในทางตรงกันข้าม ไม่เพียงชาวบ้านได้รับผลประโยชน์ จากการมีไฟฟ้าใช้ แต่มีการจ้างงานคนในพื้นที่เพื่อดูแลโครงการ ตลอดจนการสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่
July 28, 2020 at 09:56PM
https://ift.tt/39yFyQa
ชาวบ้านเขาใน เปลี่ยนนาร้างเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้า สร้างรายได้ชุมชน - สยามรัฐ
https://ift.tt/2Wd4Qyj
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ชาวบ้านเขาใน เปลี่ยนนาร้างเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้า สร้างรายได้ชุมชน - สยามรัฐ"
Post a Comment